ปัจจุบันนี้มีผู้ปลูกเลี้ยงแคคตัสกันอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้คงเนื่องมาจากลักษณะ ทรงต้นของแคคตัสที่แตกต่างไปจากพืชอื่นๆ คือ
มีหนามขึ้นโดยรอบต้น การเรียงตัวของตุ่มหนาม ที่เป็นระเบียบสวยงามเช่น Mammillariaหรือ Astrophytum asterias ที่มีลักษณะตุ่มหนามเป็น
ปุยนุ่มเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ เป็นต้น
นอกจากทรงต้นของแคคตัสที่แปลกตาต่างจากพืชอื่นๆแล้ว
แคคตัสยังเป็นพืชที่มีดอก สวยงาม สีสันของดอกสดใสดึงดูดสายตา
ไม่ว่าจะเป็นดอกสีแดงสดของ Rebutia wessneriana หรือดอกสีขาวของObregonia
denegrii หรือสีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีม่วง
หรือสีส้ม รวมทั้งรูปทรงของดอกที่แตกต่างกันออกไป แคคตัสบางสกุล เช่น สกุล Mammillaria
นั้นจะออกดอกเล็กๆ พร้อมกันทั้งต้นดูละลานตา หรือในสกุล Melocactus
ที่จะออกดอกบริเวณที่เรียกว่า cephaliumซึ่งเป็นลักษณะ
ที่พืชอื่นไม่มีทั้งรูปร่างลักษณะของต้น จะเรียงตัวของตุ่มหนาม สีสัน
และรูปร่างของดอกแคคตัสนี้ คงเป็นเสน่ห์
ดึงดูดให้มีผู้นิยมปลูกเลี้ยงกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบันนั่นเอง
อาจกล่าวได้ว่า
ไม่มีแคคตัสสักชนิดเดียวที่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญเลย
หลายชนิดมีการใช้ประโยชน์ บ้างตามท้องถิ่นที่ขึ้นอยู่ ตัวอย่างเช่น
ในพื้นที่ที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่นั้นใช้ลำต้นแห้งของแคคตัสสกุลของCereus
ทำเสาปลูก เพิงกระท่อมหรือเสาบ้านเตี้ยๆได้ ขณะเดียวกันในแหล่งที่เลี้ยงสัตว์แต่ไม่มีทุ่งหญ้านั้น
กิ่งของ Opuntia เมื่อเอาหนาม ออกแล้วใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
นอกจากนั้นกิ่งอ่อนของ Opuntia บางชนิดสามารถขจัดหนามออกได้ง่าย
นำมาทอด รับประทานในประเทศแม็กซิโกและญี่ปุ่น
ส่วนในรัฐเท็กซัสนั้นนิยมนำมาต้มรับประทานแทนผัก เนื่องจากสามารถเก็บได้นาน
เป็นเดือนอีกทั้งช่วยป้องกันโรคบางชนิดได้อีกด้วย ผลของ Opuntia
ficus-indica ที่มีดอกสีเหลืองนั้น สามารถนำมารับประทานได้
ผลมีลักษณะคล้ายลูกแพร์ จึงเรียกกันว่า Pricky Pear ผลมีสีต่างกันไปขึ้นกับพันธุ์
เช่น var.serotima ผลสีเหลือง var.rubar ผลสีแดงAsperma ผลเล็กสีเหลืองและมีขนาดเล็ก var.serotimaมีผลสีเหลือง แต่ออกผลช้ากว่าพันธุ์อื่น หรืออาจมีชนิดที่
ผลมีสีเหลืองอมแดงหรือลายเหลืองแดง
น้ำที่อยู่ในผลจะมีสีเดียวกันกับเปลือกภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กและแข็ง
แต่จัดว่าเป็นไม้ผลที่มีรสหวานอร่อยมาก ผลไม้นี้พบในเขตชื้นของสหรัฐอเมริกา
แต่นิยมปลูกในเขตกึ่งร้อนและพบว่า ขึ้นตามธรรมชาติในเขตเม็กซิโก
เป็นพืชที่ปลูกในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกาใต้เพื่อส่งเป็นสินค้าออก
มีขายทั่วไป ในสหรัฐอเมริกา นอกจากรับประทานผลแล้วยังใช้ทำแยม
เยลลี่แผ่นใช้เลี้ยงวัวและหมู นอกจากชนิดที่กล่าวมาแล้วยังมีชนิดอื่นๆที่ทานได้อีก
เช่น O.phaeacantha ผลสีม่วงแดง ปลูกแถบเม็กซิโก
และในรัฐอื่นๆที่ใกล้เคียง จึงมีชื่อสามัญว่า New Mexico Pricky Pera หรือPurple-fruited ประโยชน์ของแคคตัสอีกประการหนึ่งก็คือ
นำไปเป็นที่พักอาศัยได้ สกุล Cereus นำมาทำรั้วทึบโดยที่คนหรือสัตว์
ลอดผ่านไม่ได้ สกุลที่เหมาะมาทำรั้วคือ Pachycereus และStenocerus
เพราะเป็นพวกที่มีลำต้นตั้งตรง ชื่อสามัญว่า Organ Pipe หรือกกุล Opuntia ก็นำมาปลูกเป็นรั้วเช่นกัน
สรุปประโยชน์ที่ได้จากแคคตัส
1) นำมารับประทานเป็นอาหาร เช่น
รับประทานผลสด รับประทานส่วนของต้นที่นำมาเปลี่ยนรูป คือ นำมาเชื่อม ต้ม หรือ ทอด
อีกทั้งนำมาใช้เลี้ยงสัตว์
2) นำมาทำที่พักอาศัย นำมาทำเป็นเสา
ทำแนวรั้ว หรือผนัง
3) ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น
พิธีกรรมทางศาสนาของชาวพื้นเมืองอเมริกัน และเม็กซิกัน
4) ใช้ในการประดับตกแต่งสถานที่ เช่น
ตกแต่งกับสวนหิน หรือ สวนทะเลทราย
👍👍
ตอบลบ