วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

ขั้นตอนการปลูกแคคสตัส

บทความ


ขั้นตอนการปลูกแคคสตัส

1. ใส่วัสดุรองกันกระถาง เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ดีโดยใส่ประมาณ 1/3 ของกระถาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความลึกของกระถาง และความยาวของราก
2. ตักดินปลูกแคคตัสลงไปปลูก กะความลึกให้พอดีกับต้นและราก
3. นำแคคตัสลงไปปลูก จัดแคคตัสให้อยู่กึ่งกลางของกระถาง และค่อย ๆ ตักดินใส่รอบ ๆ ต้น โดยใส่ดินให้ต่ำกว่าขอบกระถางประมาณ 1 เซนติเมตร
4. ใส่ปุ๋ย เราจะใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท (Osmocote) หรือปุ๋ยละลายช้าปริมาณเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีปุ๋ยก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ค่ะ เพราะในดินปลูกแคคตัสก็มีสารอาหารและแร่ธาตุอยู่แล้ว
5. โรยหินให้ทั่ว ใช้ช้อนตักและโรยหินให้ทั่ว โดยไม่ต้องโรยหนาเกินไป แค่ไม่เห็นดินก็พอแล้ว

   ไม่ควรเปลี่ยนกระถางในช่วงฤดูฝน เพราะจะเสี่ยงต่อการเน่ามากที่สุด นอกจากนี้เมื่อเปลี่ยนกระถางใหม่ไม่ควรรดน้ำทันที ควรทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน จึงจะรดน้ำตามปกติ แต่ถ้าเราผึ่งรากให้แห้งสนิทแล้วก็สามารถรดน้ำได้เลย หลังจากปลูกเสร็จค่ะ และหลังจากเปลี่ยนกระถางใหม่หมาด ๆ ควรนำแคคตัสไปไว้ในที่ที่มีแดดรำไรก่อน และค่อย ๆ ฝึกออกแดดช่วงเช้าและเย็นเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะนำไปเลี้ยงรวมกับแคคตัสต้นอื่น ๆ




ส่วนผสม
ส่วนผสมที่ 1

   1. ดินใบก้ามปูร่อน 3 ส่วน
   2. ถ่านเกล็ด 1 ส่วน (แบบที่เป็นเกล็ดพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไปนะคะ)
   3. ขุยมะพร้าว 1 ส่วน ควรนำไปแช่น้ำจนหมดยางก่อนใช้
   4. ปุ๋ยอินทรีย์ 1 ส่วน

ส่วนผสมที่ 2

   1. กรวดน้ำจืด ½ ส่วน
   2. ทรายหยาบ ½ ส่วน ก่อนใช้ควรล้างเอาความเค็มและฝุ่นผงออกไปก่อนค่ะ
   3. หินภูเขาไฟ เบอร์ 00 1 ส่วน (เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ดินปลูกของเรามีความโปร่ง)
   4. หินฟอสเฟต (Rock Phosphate) ½ ส่วน
   5. รีโบน หรือกระดูกป่น ½ ส่วน
   6. โดโลไมต์ (Dolomite) ½ ส่วน (เป็นสารปรับสภาพดิน เพื่อให้ดินมีสภาพเป็นกลาง)

                                





ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถาง

ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถาง
1.นำแคคตัสออกจากกระถาง และรื้อดินเก่าออก
2. ล้างดินออกจากราก และทำการตัดแต่งรากฝอย เพื่อให้แคคตัสได้ผลิตรากใหม่และดูดซึมอาหารได้ดีกว่าเดิม จากนั้นพักไว้ในร่มประมาณ 7 วัน ให้แผลแห้งสนิท จึงนำลงปลูก
3. หลังจากแผลของรากที่เราตัดแต่งแห้งดีแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนการลงปลูก ควรเลือกขนาดกระถางให้เหมาะสมกับต้นที่เราจะทำการเปลี่ยน โดยให้เว้นให้ห่างจากขอบกระถางประมาณ 1.5 เซนติเมตร หากเลือกกระถางที่ใหญ่เกินไปจะทำให้ดินมีความชื้นสูง เป็นสาเหตุให้แคคตัสของเราเน่าได้
4. เตรียมดินสำหรับเปลี่ยนให้แคคตัสของเรา ส่วนสูตรดินจะเป็นแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านเลย แต่เน้นที่โปร่งๆเข้าไว้จะดีที่สุด สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงหากผสมดินเองไม่เป็น สามารถหาซื้อดินสำเร็จรูปสำหรับปลูกแคคตัสมาใช้ได้เลย
5. รองก้นกระถางด้วยหินภูเขาไฟ กะปริมาณให้พอเหมาะกับกระถาง หินภูเขาไฟจะช่วยให้ดินในกระถางโปร่งและระบายน้ำได้ดี
6. ใส่ดินปลูกลงไปประมาณครึ่งนึงของกระถางก่อน ตามด้วยปุ๋ยละลายช้า ออสโมโค้ทและสตาร์เกิ้ลจีเพื่อป้องกันแมลง
7. นำแคคตัสวางลงไประหว่างกึ่งกลางของกระถาง
8. ใช้ช้อนค่อยๆตักดินเติมลงไปให้เต็มกระถาง
9. ใช้หินโรยหน้าดินเพื่อเพิ่มความสวยงาม และยังมีประโยชน์เวลารดน้ำ หินจะทำให้ดินไม่กระเด็นเลอะเทอะอีกด้วย

10. หลังจากเปลี่ยนกระถาง อย่าเพิ่งรดน้ำทันที ควรเว้นระยะสัก 5–7 วัน และวางในที่แดดรำไร ก่อนนำไปเลี้ยงรวมกับต้นอื่นๆ

























ตัดแต่งรากแคคตัส


บทความ

 ตัดแต่งรากแคคตัด

เริ่มจากเคาะกระถางออกมาก่อนเลยแล้วกัน เจ้าต้นนี้จะเคาะให้เค้าหลุดออกมาจากกระถางยากสักหน่อยเพราะต้นเค้าโตมากจนแน่นกระถางเสียแล้วเพราะฉะนั้นเวลาทำต้องใช้ความระวังพอสมควรเลยทีเดียว




 ขั้นแรกค่อยๆ บีบกระถาง อย่าบีบแรงจนเกินไปไม่เช่นนั้นไม้อาจะช้ำ ที่เราบีบเพื่อให้ดินนั้นร่อนจะได้ดึงออกมาง่ายๆ จากนั้นก็ใช้นิ่วดันที่รูกระถางจนต้นเค้าหลุดออกมาจะได้เป็นแบบนี้


 จะเห็นว่าดินปลูกที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนเป็นระยะเวลานานๆ นั้น จะจับตัวกันเป็นก้อน ก็ค่อยๆ เอาดินออก ให้หมด โดยที่ผมจะใช้น้ำเข้าช่วยเพื่อให้ดินหลุดง่ายขึ้น ก็ค่อยๆ ล้างดินไปเรื่อยๆ จนดินออกหมดเหลือแต่ราก


 เมื่อล้างดินออกจนหมดแล้วนั้นจะเห็นว่ารากของแคคตัสต้นนี้นั้นเยอะมาก บางส่วนเป็นรากเก่ารากแก่ซึ่งศักยภาพในการหาอาหารนั้นเริ่มไม่ดีแล้ว เทียบกับรากใหม่ๆ อ่อนๆ ไม่ได้ รากใหม่ๆ โดยเฉพาะรากฝอยนั้น จะเป็นรากที่หาอาหารได้ดีกว่ารากเก่าใหญ่ๆ แบบนี้มาก เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการตัดรากเก่าพวกนี้ออกไปให้กุด ไม่ต้องกลัวนะครับว่ารากเค้ากุดแล้วจะตาย เพราะเมื่อเราตัดแต่งรากเค้าเรียบร้อยแล้ว พอเอากลับมาลงปลูกอีกครั้ง เค้าจะออกรากใหม่ๆ สดๆ ที่หาอาหารเก่งๆ ออกมาแน่นอน


  หลังจากที่เราตัดแต่งรากเรียบร้อยแล้วนั้น ผมจะไม่เอาไปลงปลูกในทันทีเพราะถ้าตัดแต่งรากปุ๊บแล้วเราเอาเค้าไปลงปลูกทันที มีโอกาสสูงมากที่เราจะเน่า เพราะแผลที่เราตัดแต่งรากไว้นั้นมันยังไม่แห้งซึ่งเมื่อเอาไปลงปลูกเลยเค้าอาจจะติดเชื้อเข้าทางแผลที่ตัดแต่งรากจนทำให้เราเน่าและต้นเน่าตายตามไปด้วยก็เป็นได้

                                                
การเจริญเติบโตของเค้าจะพุ่งพรวดอย่างรวดเร็วทันที เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ที่ลงปลูกก็ต้องใจเย็นนิดนึง ตอนที่รากเค้ายังออกน้อยยังเจริญเติบโตได้ไม่ดีก็อย่าพึ่งไปรดนํ้าเค้าบ่อยเกินไปนะ เพราะรากน้อยการดูดนํ้าก็ยังคงจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก ถ้าไปรดนํ้าเค้าบ่อยๆ ดินจะชื้นแล้วแห้งม่ทันทำให้เค้ามีโอกาสเน่าตายได้เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ในการลงปลูกหลังจากตัดแต่งราก ควรจะให้นํ้าแต่น้อยๆ สักอาทิตย์ละครั้งน่าจะกำลังพอเหมาะ หรือว่าเลือกรดนํ้าเฉพาะตอนที่เห็นว่าดินแห้งสนิทเท่านั้นก็ได้